10 อันดับประเทศ ที่ เหมาะจะย้ายไปอยู่อาศัย
ต่อไปนี้จะเป็นการจัดอันดับ 10 ประเทศที่น่าอยู่ที่สุด โดยอ้างอิงจาก ภูมิประเทศ และ ภัยต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้น และความเสี่ยงที่เป็นอันตรายต่อชีวิตมนุษย์ (โพลนี้ ไม่นับรวม อินเตอร์เน็ต และ ความเจริญของประเทศ)
อันดับที่ 1. ประเทศไทย 🇹🇭
✒ ๑ เมืองไทย เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ ข้าวปลาอาหาร คนถึงไม่ค่อยอดอยาก มีน้ำใจให้กัน เผื่อแผ่กันได้เสมอ ไม่ต้องคอยแย่งกินอาหารกันเหมือนที่อื่น
เคยอยู่ไม๊แบบไม่มีตังค์ รับรองว่าเคยกัน เก็บผักบุ้งริมรั้วมาผัดกินกับเกลือยังอยู่ได้เล้ย (อันนี้เมื่อสิบปีมาแล้ว) (ไม่แล้งน้ำใจเหมือนต่างชาติ พวกไร้รากวัฒนธรรมเยอะ) เคยไม๊ ไปต่างถิ่น มีข้าวปลาอาหารเลี้ยงฟรี ไม่คิดตังค์เลย แม้แต่แดงเดียว แถมต้อนรับขับสู้ เป็นอย่างดี (เมืองนอก แทบจะหาได้น้อยมากนะ)
✒ ๑ เมืองไทย เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ ข้าวปลาอาหาร คนถึงไม่ค่อยอดอยาก มีน้ำใจให้กัน เผื่อแผ่กันได้เสมอ ไม่ต้องคอยแย่งกินอาหารกันเหมือนที่อื่น
เคยอยู่ไม๊แบบไม่มีตังค์ รับรองว่าเคยกัน เก็บผักบุ้งริมรั้วมาผัดกินกับเกลือยังอยู่ได้เล้ย (อันนี้เมื่อสิบปีมาแล้ว) (ไม่แล้งน้ำใจเหมือนต่างชาติ พวกไร้รากวัฒนธรรมเยอะ) เคยไม๊ ไปต่างถิ่น มีข้าวปลาอาหารเลี้ยงฟรี ไม่คิดตังค์เลย แม้แต่แดงเดียว แถมต้อนรับขับสู้ เป็นอย่างดี (เมืองนอก แทบจะหาได้น้อยมากนะ)
๒ เมืองไทย มีความหลากหลายทางพันธุกรรมพืช สัตว์ (เพราะอยู่ในเขตร้อนชื้น)
คุณเคยรู้สึกไม๊ว่า เอ๊ทำไมผักบ้านเรา ยกตัวอย่างเช่นใบกระเพรา มันมีหลายรส หลายชาด มะม่วงมีหลายพันธุ์ ข้าวหอมมะลิก็มีหลายพันธุ์ แถมเกษตรกรไทย ยังขยันปรับปรุงพันธุ์ ทำให้ได้หม่ำ อาหาร อร่อย และมีคุณภาพกัน (เน้นอาหารการกิน มีหลากหลายด้วย เพราะคนไทย ขยัน ปรับปรุง แปลงเมนู เพียบ) แถม คนมากมาย เชฟมือทอง เทียบต่อ หกสิบกว่าล้านคน คงเยอะอยู่นะ
คุณเคยรู้สึกไม๊ว่า เอ๊ทำไมผักบ้านเรา ยกตัวอย่างเช่นใบกระเพรา มันมีหลายรส หลายชาด มะม่วงมีหลายพันธุ์ ข้าวหอมมะลิก็มีหลายพันธุ์ แถมเกษตรกรไทย ยังขยันปรับปรุงพันธุ์ ทำให้ได้หม่ำ อาหาร อร่อย และมีคุณภาพกัน (เน้นอาหารการกิน มีหลากหลายด้วย เพราะคนไทย ขยัน ปรับปรุง แปลงเมนู เพียบ) แถม คนมากมาย เชฟมือทอง เทียบต่อ หกสิบกว่าล้านคน คงเยอะอยู่นะ
๓ เมืองไทย มีพุทธศาสนา (แนวทางหลุดพ้น มรรคมีองค์แปด แน่นอนไม่ใช่แค่ให้พ้นทุกข์อย่างเดียว ทำให้เห็นสัจจธรรม อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มีการสั่งสมวัฒนธรรม การเรียนรู้ สายอริยมรรค มาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย สังเกต พ่อแม่ปู่ย่าตายาย มักพาเข้าวัด วัฒนธรรม เกี่ยวข้องกับศาสนา (วันหยุดให้ทำบุญทำทาน เข้าวัด เป็นต้น) ได้อยู่กับวัฒนธรรมแบบนี้ หนทางแห่งการหลุดพ้น จากวัฏฏะสงสาร (การเวียนว่ายตายเกิด)
๔ เมืองไทย มีคนไทย พูดภาษาไทย ภาษาแม่ของเรา (มันเข้าใจได้ลึกซึ้งมากมากกว่า) และมีเพลงไทย ที่คุ้นหูมาแต่เด็กจนวัยกลางคนแน่ะ
๕ สมมตินะว่า ถ้าเกิดสึนามิ ที่ใดที่หนึ่ง ดูซิว่า จะมีคนมาช่วยเหลือ ได้เร็วเท่าเมืองไทย ไหม (โดยไม่ใช้เงินมากเท่า) บ้านเรามีแต่ให้นะขอบอก น้ำใจ (ที่ไหนไม่เท่าบ้านเรา) เหนือ ใต้ อิสาน สึนามิ หรือจะทำอะไรคนไทย ได้
๖ ทรัพยากรมนุษย์ คุณไม่รู้หรอกว่า โรงเรียนที่เมืองไทยน่ะ ระดับประถม ครูดูเหมือนจะเยอะมากมาก วิชาเรียน วันนึงเรียนกับครูไม่ต่ำกว่า สี่คน เลข อังกฤษ สังคม พละ ฯลฯ มัธยม เช่นกัน นั่นหมายความว่า ความเท่าเทียมในการเรียนการดูแล โดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา ย่อมไม่ต่างกันมาก ทำให้คนมีความรู้ ไประดับเฉลี่ย ใกล้กัน ตปทเห็นครูในห้องเรียน อยู่หนึ่งคน สอนอยู่นั่นและ สอนทุกวิชา มอนเตสซ้อรี่ หมายเหตุ ไม่ได้พูดถึงระดับมหาลัย เพราะไม่มีประสบการณ์
๗ เมืองไทย มีภูมิปัญญาชาวบ้าน สิ่งที่สั่งสมสืบทอดกันมา เป็นวัฒนธรรมการเรียนรู้ เช่นสมุนไพร การใช้ชีวิตประจำวัน ก็ต้องเกี่ยวข้องกับ ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค (สำคัญ) บางที สิ่งนี้ ที่เราอาจมองไม่เห็น
ยกตัวอย่างเช่น เป็นลมพิษ เอาข้าวตำผสมใบกุ้ยช่าย เอามาทา แป๊บเดียวหาย ดีกว่าคาลาไมด์แยะเลย เมืองนอกจะไปหากุ้ยช่ายที่ไหน ถ้าไม่ได้นำเข้า (ปล.ยกตัวอย่าง) แย้งได้นะคะ นึกอย่างอื่นไม่ทัน
๘ สถานที่ท่องเที่ยว ผสมผสาน กับประเพณี และวัฒนธรรมสี่ภาค (จะมีที่ไหนเท่า) ล่ะเน้อ สงกรานต์ก็จะเห็นกันที กลับต่างจังหวัดกันเป็นแถวๆๆ
แถมสถานที่ท่องเที่ยว ยังสวยงาม ธรรมชาติ มีความหลากหลาย ของต้นไม้ใบหญ้า ดอกไม้ กล้วยไม้ (อีกล่ะ ที่เกริ่นไว้ มีการขยับขยายพันธุ์สวยงามไม่แพ้ใคร)
แถมสถานที่ท่องเที่ยว ยังสวยงาม ธรรมชาติ มีความหลากหลาย ของต้นไม้ใบหญ้า ดอกไม้ กล้วยไม้ (อีกล่ะ ที่เกริ่นไว้ มีการขยับขยายพันธุ์สวยงามไม่แพ้ใคร)
๙ พูดถึงดอกไม้หอม ดีกว่า มีความหลากหลาย : ดอกปีบ นมแมว, ดอกโมก, หอมหมื่นลี้, ราตรี, ลีลาวดี, ราชาวดี, มะลิ, กุหลาบ, กระดังงาสงขลา, แก้ว, บัว, จำปี, จำปา,กรรณณิการ์,การเวก,เล็บมือนาง
ปล. ไม่แน่ใจว่า บางดอกอาจมีในประเทศแถบหนาวนะคะ ที่หอมๆๆ ไฮยาซิน ลิลลี่ กุหลาบ เป็นต้น
ปล. ไม่แน่ใจว่า บางดอกอาจมีในประเทศแถบหนาวนะคะ ที่หอมๆๆ ไฮยาซิน ลิลลี่ กุหลาบ เป็นต้น
อันดับที่ 2. ประเทศ ลาว 🇱🇦
✒ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับไทยทั้งในเชิงประวัติศาสตร์ ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ เชื้อชาติ ศาสนา ภาษา และวัฒนธรรม มีเขตแดนติดต่อกับไทยทั้งทางบกและทางน้ำเป็นแนวยาวถึง 1,810 กิโลเมตร
✒ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับไทยทั้งในเชิงประวัติศาสตร์ ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ เชื้อชาติ ศาสนา ภาษา และวัฒนธรรม มีเขตแดนติดต่อกับไทยทั้งทางบกและทางน้ำเป็นแนวยาวถึง 1,810 กิโลเมตร
สปป.ลาวเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกทางทะเล แต่สามารถเป็นจุดเชื่อมต่อ (land link) ด้านการคมนาคมขนส่งจากไทย ไปประเทศที่สามในอนุภูมิภาค ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ข้ามแม่น้ำโขงทั้ง 4 แห่ง ได้แก่หนองคาย-เวียงจันทน์(8 เมษายน 2537) มุกดาหาร-สะหวันนะเขต(20 ธันวาคม 2549) นครพนม-คำม่วน(11 พฤษจิกายน 2554) เชียงราย-บ่อแก้ว(11 ธันวาคม 2556) และในอนาคตอันใกล้จะมีสะพานแห่งที่ 5 ที่ บึงกาฬ-บอลิคำไซ และแห่งที่ 6 ที่ อุบลราชธานี-สาละวัน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ
สปป.ลาวมีรายได้จากทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะป่าไม้และแร่ธาตุ เช่น ทองคำ ทองแดง และบ็อกไซต์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตอลูมิเนียม มีเขื่อนหลายแห่งที่ผลิตไฟฟ้า พลังน้ำส่งไปขายประเทศเพื่อนบ้านรวมทั้งไทย ภาคใต้ของสปป.ลาวเป็นที่ราบสูงที่เป็นแหล่งปลูกกาแฟคุณภาพดี
นอกจากนี้ การท่องเที่ยวก็เป็นแหล่งรายได้ที่เพิ่มความสำคัญขึ้นมาก จุดเด่นของสปป.ลาว คือ ธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์และวัฒนธรรมประเพณี สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น เมืองหลวงพระบาง (มรดกโลก) ทุ่งไหหิน น้ำตกคอนพะเพ็ง น้ำตกหลี่ผี และปราสาทวัดพู (มรดกโลก)
อันดับที่ 3. ประเทศ สวีเดน 🇸🇪
✒ ๑. ข้อแรกคือ สวีเดนถูกจัดให้เป็นประเทศที่เหมาะแก่การทำธุรกิจมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งจากการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes จากที่เมื่อสิบปีก่อนพวกเขาอยู่ในอันดับที่ 17 ส่วนสาเหตุที่ทำให้ไต่อันดับขึ้นมาได้ขนาดนี้ก็เพราะการปรับเปลี่ยนนโยบายในหลายๆ ด้าน ส่วนไทยล่าสุดติดอยู่ที่อันดับ 67 (เผื่ออยากรู้)
✒ ๑. ข้อแรกคือ สวีเดนถูกจัดให้เป็นประเทศที่เหมาะแก่การทำธุรกิจมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งจากการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes จากที่เมื่อสิบปีก่อนพวกเขาอยู่ในอันดับที่ 17 ส่วนสาเหตุที่ทำให้ไต่อันดับขึ้นมาได้ขนาดนี้ก็เพราะการปรับเปลี่ยนนโยบายในหลายๆ ด้าน ส่วนไทยล่าสุดติดอยู่ที่อันดับ 67 (เผื่ออยากรู้)
๒. ติดอันดับที่ 6 ของดัชนีความสามารถในการแข่งขันระดับโลก (Global Competitivenes Index) ด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเหล่าบรรดาประเทศที่พัฒนาแล้วหลายๆ ประเทศ อีกทั้งยังลดการขาดดุลได้มาก ตลาดแรงงานก็ลื่นไหล อัตราการจ้างงานก็สูง และผู้หญิงก็มีบทบาทมากในด้านแรงงาน
๓. จากดัชนีช่องว่างทางเพศระดับโลก (Global Gender Gap Index) ชี้ให้เห็นว่าสวีเดนเป็นประเทศที่มีการจัดการเรื่องของความเท่าเทียมทางเพศได้ดี ซึ่งปีก่อนถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 4 จากทั่วโลก โดยสามารถปิดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางเพศได้กว่า 81% จากทุกๆ ด้าน ส่งผลให้ผู้หญิงมีหน้าที่การงานในระดับสูงทั้งภาคธุรกิจและการเมือง
๔. เป็นประเทศที่มีปัญหาการคอร์รัปชั่นต่ำเป็นอันดับ 4 จากการจัดอันดับของ Transperency International ที่สำรวจการทุจริตของภาครัฐใน 168 ประเทศ (ส่วนไทยอยู่ที่อันดับ 101 สามารถรักษาคะแนนไว้ได้อย่างคงที่ 3 ปีติดต่อกัน)
๕. คณะกรรมาธิการยุโรป (european commission) จัดให้สวีเดนอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความสามารถในด้านนวัตกรรมสูง ในระดับท๊อปเคียงบ่าเคียงไหล่เดนมาร์ก ฟินแลนด์ เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ เพราะสวีเดนเป็นผู้นำในด้านทรัพยากรมนุษย์ซึ่งมีทักษะและการศึกษาสูง อีกทั้งมีงานวิจัยที่มีคุณภาพ
๖. ‘มีหนังสือเดินทางที่ทรงพลัง’ ในที่นี้หมายถึงสามารถเข้าไปยังประเทศต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ด้วยอำนาจการยกเว้นเงื่อนไขเป็นพิเศษสำหรับชาวสวีเดนโดยเฉพาะ ทำให้สามารถเดินทางไปยังประเทศต่างๆ กว่า 176 ประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า เป็นรองแค่เยอรมนีที่เข้าได้ 177 ประเทศ
๗. สวีเดนสร้างหลักประกันให้ช่วงบั้นปลายชีวิตของคนในประเทศมีความสุข ทั้งความปลอดภัยที่มีมาตรฐานสูง รายได้ที่มั่นคงจากบำนาญครอบคลุม 100% อัตราความยากจนในผู้สูงอายุต่ำ ทำให้ผู้สูงอายุที่นี่มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความพึงพอใจในประเทศตัวเอง
๘. ทักษะทางภาษาอังกฤษของคนสวีเดนอยู่ในเกณฑ์ดีมาก จากการจัดอันดับของ Education First ทำให้เห็นว่าเป็นรองแค่เนเธอร์แลนด์กับเดนมาร์กแค่นั้นเอง สาเหตุมาจากการที่ภาษาอังกฤษเป็นวิชาบังคับมาตั้งแต่ชั้นประถมและมัธยมต้นมาเกือบ 40 ปี (แต่บางประเทศที่ทำได้ไม่ค่อยดีก็เรียนมาตั้งแต่ชั้นประถมเหมือนกันนะ)
๙. ด้วยปัจจัยบวกหลายๆ ด้าน อย่างพ่อแม่มีสิทธิลางานมาเลี้ยงลูกได้ถึง 16 เดือน มีการลงทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมมากมาย มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ก้าวกระโดด อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูงสำหรับผู้หญิงและความโปร่งใสของสื่อ ทำให้ RepTrack จัดอันดับให้สวีเดนเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในด้านที่ดีและเป็นประเทศที่สวยงาม
อันดับที่ 4. ประเทศฝรั่งเศส 🇫🇷
✒ พื้นที่
✒ พื้นที่
ฝรั่งเศสมีพื้นที่ 550,000 ตารางกิโลเมตร นับเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก (ประมาณเกือบหนึ่งในห้าของพื้นที่ของสหภาพยุโรป) อีกทั้งยังมีพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่กินอาณาบริเวณกว้างขวาง (เขตเศรษฐกิจจำเพาะมีพื้นที่ทั้งสิ้น 11 ล้านตารางกิโลเมตร)
ภูมิประเทศ
พื้นที่ประมาณสองในสามของประเทศฝรั่งเศสเป็นที่ราบ เทือกเขาที่สำคัญได้แก่ เทือกเขาแอล์ปซึ่งมียอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรป คือ ยอดเขามงต์บลองก์ (Mont-Blanc) สูง 4,807 เมตร เทือกเขาปิเรเนส์ เทือกเขาจูรา เทือกเขาอาร์แดนส์ เทือกเขามาสซิฟ ซองทราลและเทือกเขาโวจช์ ประเทศฝรั่งเศสมีชายฝั่งทะเลอยู่ถึง 4 ด้าน คิดเป็นความยาวรวมทั้งสิ้น 5,500 กิโลเมตร (ทะเลเหนือ ช่องแคบอังกฤษ มหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน)
ภูมิอากาศ
มี 3 แบบคือ
แบบชายฝั่งทะเลตะวันตก (บริเวณตะวันตกของประเทศ)
แบบเมดิเตอร์เรเนียน (ทางตอนใต้ของประเทศ)
แบบภาคพื้นทวีป (ทางตอนกลางและภาคตะวันออกของประเทศ)
สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ
พื้นที่เกษตรกรรมและทำป่าไม้มีประมาณ 48 ล้านเฮกตาร์ คิดเป็นร้อยละ 82 ของพื้นที่โดยรวมทั้งประเทศ (เฉพาะฝรั่งเศสส่วนภาคพื้นทวีป)
พื้นที่ป่ามีประมาณร้อยละ 30 และนับว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหภาพยุโรปรองจากสวีเดนและฟินแลนด์ ตั้งแต่ปี 1945 พื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 46 และถ้าพูดถึงในช่วง 200 ปีที่ผ่านมา นับว่าเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว
ฝรั่งเศสมีความแตกต่างไปจากประเทศอื่นๆในยุโรปเพราะมีพันธุ์ไม้มากถึง 136 ชนิด ในส่วนของสัตว์ใหญ่ก็เพิ่มจำนวนขึ้น ภายในช่วงระยะเวลา 20 ปี จำนวนของสัตว์ประเภทกวางเพิ่มขึ้นถึง 2-3 เท่า
ประเทศฝรั่งเศสให้ความสำคัญกับมรดกทางธรรมชาติและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ จึงได้มีการจัดตั้ง
อุทยานแห่งชาติ 7 แห่ง
ป่าสงวน 156 แห่ง
เขตรักษาพันธุ์พืชและสัตว์ป่า 516 แห่ง
รวมทั้งประกาศให้พื้นที่อีก 429 แห่งเป็นเขตอนุรักษ์อยู่ภายใต้การดูแลของสถาบันอนุรักษ์ชายฝั่งทะเล
นอกจากนี้ยังมีอุทยานธรรมชาติตามภูมิภาคต่างๆ อีกกว่า 37 แห่งซึ่งกินพื้นที่กว่าร้อยละ 7 ของประเทศ
งบประมาณจำนวน 32 พันล้านยูโรได้รับการจัดสรรเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และเมื่อคิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อประชากรจะเท่ากับ 516 ยูโร ทั้งนี้ 3 ส่วน 4 ของเงินข้างต้นจะเป็นค่าใช้จ่ายในเรื่องของการบำบัดน้ำเสียและการจัดการของเสียต่างๆ
ในระดับนานาชาติ ฝรั่งเศสเป็นภาคีของสนธิสัญญาและอนุสัญญาทางด้านสิ่งแวดล้อมหลายฉบับ รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพและการแปรสภาพเป็นทะเลทราย
อันดับที่ 5. ประเทศนิวซีแลนด์ 🇳🇿
✒ หลายๆ คน อาจเลือกสถานที่สำหรับไปเรียนภาษาอังกฤษด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับใครที่มองหาความปลอดภัย คุณภาพของการศึกษา และความคุ้มค่าด้วยราคาที่สมเหตุสมผล เราขอแนะนำ นิวซีแลนด์ หนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยมากที่สุดในการอยู่อาศัยและไปเรียนไปใช้ชีวิต
✒ หลายๆ คน อาจเลือกสถานที่สำหรับไปเรียนภาษาอังกฤษด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับใครที่มองหาความปลอดภัย คุณภาพของการศึกษา และความคุ้มค่าด้วยราคาที่สมเหตุสมผล เราขอแนะนำ นิวซีแลนด์ หนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยมากที่สุดในการอยู่อาศัยและไปเรียนไปใช้ชีวิต
เราไม่ได้กำลังจะบอกว่าที่แดนกีวี่ไม่มีเหตุอาชญากรรมร้ายแรง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับหลายๆ ประเทศแล้ว อัตราการเกิดเหตุอาชญากรรมหรือความรุนแรงในนิวซีแลนด์มีน้อยมากจริงๆ และต่อไปนี้ คือสาเหตุสำคัญว่าทำไม นิวซีแลนด์ถึงได้เป็นประเทศที่สงบสุขและเหมาะกับการไปศึกษาเล่าเรียน
ชาวนิวซีแลนด์ใจดีและรักสงบ
ชาวนิวซีแลนด์ถูกปลูกฝังให้มีความเชื่อในเรื่องเสรีภาพการใช้ชีวิต จริงทำให้มีลักษณะนิสัยที่ค่อนข้างใจกว้างกับสิ่งต่างๆ และโดยพาะกับคนต่างชาติ ต่างวัฒนธรรม โดยปรากฎเป็นลายลักษณ์อักษรในรัฐธรรมนูญ และกฏหมายป้องกันการริดรอนสิทธิในการแสดงออกโดยอิสระของผู้อื่น องค์กรผู้บังคับใช้กฎหมายอย่างตำรวจ ก็เป็นที่น่าเชื่อถือและไว้วางใจ ตำรวจนิวซีแลนด์ไม่มีสิทธิ์ก่อกวนหรือคุกคามต่อประชาชน ด้วยมีกฏที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยพลการ และไม่อนุญาตให้ตำรวจพกอาวุธปืนส่วนบุคคลด้วย
อัตราการคอรัปชั่นที่ต่ำมาก
ผลสำรวจ Global Peace Index ประจำปี 2017 ยกให้นิวซีแลนด์อยู่ในอันดับ 2 ของประเทศที่สงบสุขที่สุดที่สุด (อันดับ 1 คือ ไอซ์แลนด์) อีกทั้ง Transparency International’s 2017 Corruption Perception Index หรือดัชนีวัดการทุจริตคอรัปชั่นนานาชาติ ประจำปี 2017 ก็ยกให้นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีการคอรัปชั่นน้อยที่สุดในโลก ร่วมกับเดนมาร์ก อย่างที่เรารู้ดีว่าการคอรัปชั่นก็คืออาชญากรรมชนิดหนึ่ง ที่สามารถส่งผลให้เกิดอาชญากรรมอื่นๆ ตามมา
ประชาชนมีเสรีภาพในการเคลื่อนไหว
ก็เพราะที่นี่สงบสุขและมีความมั่นคงทางการเมืองสูง จึงทำให้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่สามารถไปไหนมาไหนได้โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอันตราย รวมถึงมีเสรีภาพที่จะแสดงออกหรือเคลื่อนไหว ตราบใดที่การแสดงออกนั้นไม่ไปกระทบกับสิทธิของผู้อื่น
ชีวิตประจำวันที่แสนปลอดภัยและกฎหมายที่เข้มงวด
หลายๆ ประเทศที่มีปัญหาคอรัปชั่น ประชาชนที่อยู่ในประเทศนั้นมักต้องพบเจอกับความยากลำบากและความไม่แน่นอนในการใช้ชีวิต แต่ไม่ใช่ที่นิวซีแลนด์แน่ๆ ที่นี่ ไม่ว่าจะจับจ่ายใช้สอยอะไร น้องๆ วางใจได้ว่าจะไม่มีการเอารัดเอาเปรียบนักเรียนต่างชาติ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย ชาวนิวซีแลนด์เองก็ภาคภูมิกับความซื่อสัตย์ของตัวเองมาก ทำให้มั่นใจได้ว่าทุกอย่างที่นี่จะ ‘fair play’ แน่นอน หากเกิดเหตุการณ์คอรัปชั่นหรือทุจริตขึ้น จะเป็นเรื่องใหญ่มากของที่นี่ ถึงขนาดพาดหัวข่าวได้เลย (เพราะมันไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยๆ ไง)
นับข้อดีได้ขนาดนี้ ก็ไม่แปลกใจเลย ที่จะได้รับเลือกให้เป็นประเทศที่สงบสุขที่สุดในอันดับต้นๆ เช่นเดียวกับที่ผู้ปกครองหลายๆ ท่าน ไว้ใจและเลือกให้นิวซีแลนด์เป็นสถานที่ในการพัฒนาภาษาอังกฤษของบุตรหลานมาช้านาน
อันดับที่ 6. ประเทศ รัสเซีย 🇷🇺
✒ 1. ในยุคโซเวียต ได้มีการสร้างโฆษณาชวนเชื่อ-Propaganda ขึ้นเพื่อปลูกถ่ายความคิดในการปกป้องประเทศผ่านโปสเตอร์ วิทยุ โทรทัศน์ ละคร บัลเลต์และสื่อต่างๆ จนกลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่นานาประเทศเห็นภาพเวลาพูดถึงรัสเซีย
2. คนรัสเซียนิยมดื่มน้ำอัดแก๊ส ถ้าสั่งวอเตอร์-Water จะหมายถึงน้ำอัดแก๊ส ถ้าจะไม่เอาแก๊สต้องบอกว่า วาดาเบียสก๊าส-Vada Bes Gas
3. วันสตรีสากลเป็นวันที่ชาวรัสเซียให้ความสำคัญเทียบเท่ากับวันวาเลนไทน์ ในวันนี้ผู้ชายจะนำดอกไม้มามอบให้ผู้หญิง ความพิเศษกว่านั้นคือผู้หญิงอาจไม่ต้องทำงานบ้าน เพราะผู้ชายจะทำให้....ก็นี่เป็นวันผู้หญิงนี่นา
4. หลังอาหารทุกมื้อ การจิบชาคู่กับแยมเปล่าๆ 1 ช้อน เป็นพฤติกรรมโปรดของคนชาตินี้
5. ไม่มีใครพูดถึงรัสเซียแล้วไม่เอ่ยถึงการแสดงชนิดนี้ คนรัสเซียนิยม ให้ความสนใจติดตามการดูบัลเล่ต์อย่างเข้มข้น
3. วันสตรีสากลเป็นวันที่ชาวรัสเซียให้ความสำคัญเทียบเท่ากับวันวาเลนไทน์ ในวันนี้ผู้ชายจะนำดอกไม้มามอบให้ผู้หญิง ความพิเศษกว่านั้นคือผู้หญิงอาจไม่ต้องทำงานบ้าน เพราะผู้ชายจะทำให้....ก็นี่เป็นวันผู้หญิงนี่นา
4. หลังอาหารทุกมื้อ การจิบชาคู่กับแยมเปล่าๆ 1 ช้อน เป็นพฤติกรรมโปรดของคนชาตินี้
5. ไม่มีใครพูดถึงรัสเซียแล้วไม่เอ่ยถึงการแสดงชนิดนี้ คนรัสเซียนิยม ให้ความสนใจติดตามการดูบัลเล่ต์อย่างเข้มข้น
6. รัสเซียเป็นผู้ผลิตไวน์เป็นอันดับที่ 3 ของโลก
7. ชาวยุโรปและคนทั่วโลกต่างขนานนามว่าผู้หญิงรัสเซียสวยที่สุดในโลก
8. คนรัสเซียเข้ากับคนแปลกหน้าได้ยาก แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาเชิญเราไปบ้านแสดงว่าเขาเปิดใจให้เราแล้ว ชาวรัสเซียถ้าลองสนิทกับใครแล้วก็จะดีใจมากๆ
9. คนทั่วโลกอาจมองรัสเซียในแง่ที่ไม่เป็นธรรมนัก เนื่องจากได้รับข่าวมาจากฝั่งอเมริกาด้านเดียว
10. ไข่ปลาคาเวียร์ดั้งเดิมคือ ไข่ของปลาสเตอเจียน ภายหลังปลาดังกล่าวเข้าสู่ภาวะใกล้สูญพันธุ์ จึงมีการใช้ไข่ปลาแซลมอนแทน ซึ่งราคาถูกกว่ามากและรสชาติอร่อยสมราคา
7. ชาวยุโรปและคนทั่วโลกต่างขนานนามว่าผู้หญิงรัสเซียสวยที่สุดในโลก
8. คนรัสเซียเข้ากับคนแปลกหน้าได้ยาก แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาเชิญเราไปบ้านแสดงว่าเขาเปิดใจให้เราแล้ว ชาวรัสเซียถ้าลองสนิทกับใครแล้วก็จะดีใจมากๆ
9. คนทั่วโลกอาจมองรัสเซียในแง่ที่ไม่เป็นธรรมนัก เนื่องจากได้รับข่าวมาจากฝั่งอเมริกาด้านเดียว
10. ไข่ปลาคาเวียร์ดั้งเดิมคือ ไข่ของปลาสเตอเจียน ภายหลังปลาดังกล่าวเข้าสู่ภาวะใกล้สูญพันธุ์ จึงมีการใช้ไข่ปลาแซลมอนแทน ซึ่งราคาถูกกว่ามากและรสชาติอร่อยสมราคา
11. ปี 2555 เป็นปีที่ 115 ความสัมพันธ์ไทย-รัสเซีย
12. รัสเซียก็มีพระอาทิตย์เที่ยงคืน
13. คนรัสเซียอาจไม่ชอบคนจีนและเวียดนาม แต่ดูจากภายนอกเขาแยกพวกเราออกจากกันไม่ได้ ดังนั้นพยายามให้เขารู้ว่าเราเป็นคนไทย แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นทันตา
14. คน รัสเซียรุ่นก่อนต่อต้านความเป็นอเมริกัน แต่คนรัสเซียรุ่นใหม่เปิดรับและคลั่งไคล้วัฒนธรรมอเมริกัน
15. รัสเซียส่งไม้สนเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ของโลก
12. รัสเซียก็มีพระอาทิตย์เที่ยงคืน
13. คนรัสเซียอาจไม่ชอบคนจีนและเวียดนาม แต่ดูจากภายนอกเขาแยกพวกเราออกจากกันไม่ได้ ดังนั้นพยายามให้เขารู้ว่าเราเป็นคนไทย แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นทันตา
14. คน รัสเซียรุ่นก่อนต่อต้านความเป็นอเมริกัน แต่คนรัสเซียรุ่นใหม่เปิดรับและคลั่งไคล้วัฒนธรรมอเมริกัน
15. รัสเซียส่งไม้สนเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ของโลก
16. นิสัยช่างตื๊อเป็นนิสัยของคนส่วนน้อยในประเทศนี้
17. โดยทั่วๆไปแล้วคนชาตินี้ไม่เชื่อและไม่นิยมเก็บเงินในบัญชีธนาคาร และคนจำนวนมากมีเงินเท่าไหร่ใช้จนหมด เพราะไม่เชื่อในระบบของธนาคาร
18. รัสเซียผลิตแก๊สหุงต้มได้มากที่สุดในโลก
19. รัสเซียผลิตน้ำมันได้เป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ประชาชนในประเทศกลับต้องใช้น้ำมันในราคาที่สูงกว่าคนในชาติอื่นๆ ที่ส่งไปขาย
20. คริสตจักรออร์โธดอกซ์แห่งรัสเซียเป็นคริสตจักร์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากคริสตจักรโรมันคาทอลิก
17. โดยทั่วๆไปแล้วคนชาตินี้ไม่เชื่อและไม่นิยมเก็บเงินในบัญชีธนาคาร และคนจำนวนมากมีเงินเท่าไหร่ใช้จนหมด เพราะไม่เชื่อในระบบของธนาคาร
18. รัสเซียผลิตแก๊สหุงต้มได้มากที่สุดในโลก
19. รัสเซียผลิตน้ำมันได้เป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ประชาชนในประเทศกลับต้องใช้น้ำมันในราคาที่สูงกว่าคนในชาติอื่นๆ ที่ส่งไปขาย
20. คริสตจักรออร์โธดอกซ์แห่งรัสเซียเป็นคริสตจักร์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากคริสตจักรโรมันคาทอลิก
✒ ตั้งอยู่ในทวีปยุโรปอันมีชีวิตชีวา สกอตแลนด์เป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าซึ่งเป็นผลมาจากความสร้างสรรค์และความอบอุ่นอันเลื่องชื่อของประชาชนชาวสกอตนั่นเอง สกอตแลนด์มีหลายสิ่งหลายอย่างที่สำคัญซึ่งช่วยให้สามารถเติบโตมาเป็นอย่างทุกวันนี้ได้ ข้อมูลและเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศสกอตแลนด์นั้นมีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
สกอตแลนด์เป็นประเทศที่เป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร อยู่ทางตอนเหนือของ Great Britain ฝั่งชายแดนของอังกฤษ โดยในเขตพื้นที่สกอตแลนด์มีเกาะมากกว่า 790 เกาะ สกอตแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก และตอนนี้ยังเป็นศูนย์กลางการขยายมหานครอีกด้วย โดยทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก มีแหล่งสำรองน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในสหภาพยุโรปที่เมืองเอดินเบอระ และเมืองกลาสโกว์เป็นศูนย์กลางทางการเงินและการท่องเที่ยวอันดับสองและสามของ UK และยังมีเมืองอเบอร์ดีนที่เป็นศูนย์กลางการค้าน้ำมันของยุโรปโดยเป็นจุดเชื่อมต่อกับทะเลเหนือ นอกจากนี้ยังมีเมืองดันดีที่เป็นเมืองทางด้านเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป และเมืองสเตอร์ลิงที่เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์เก่าแก่ งดงาม ทั้งยังมีไฮแลนด์ที่เป็นดินแดนทะเลสาบและภูเขาอันกว้างใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยที่สุดในสหราชอาณาจักร
การท่องเที่ยวนับเป็นหนึ่งในขุมทรัพย์ที่สำคัญที่สุดของสกอตแลนด์ โดยเน้นไปที่สถานที่ท่องเที่ยวและการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การเล่นกอล์ฟ การเดินเที่ยว และประวัติศาสตร์ที่อัดแน่นอยู่ในทุกที่ที่ไป ในด้านอุตสาหกรรมเองสกอตแลนด์ก็ถือเป็นผู้บุกเบิกที่กล้าได้กล้าเสีย ปัจจัยทางธุรกิจที่สำคัญของสกอตแลนด์นั้นมีทั้งด้าน life sciences, electronics technology, energyและ financial services
นอกจากนี้สกอตแลนด์ยังภูมิใจในตลาดการส่งออกสินค้าไปทั่วโลกที่เจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในด้านอาหารและเครื่องดื่ม รวมไปถึงของขึ้นชื่ออย่างวิสกี้สกอต และสารเคมีต่างๆ
ชาวสกอตนั้นถือได้ว่าเป็นกำลังสำคัญในการทำงาน ด้วยความที่มีการศึกษาระดับสูงที่มีประสิทธิภาพ เปี่ยมด้วยทักษะที่จำเป็นต่องาน และมีแรงบันดาลใจที่เป็นสิ่งช่วยกระตุ้นในการทำงาน นอกจากพวกเขานี้ยังภูมิใจในปัญญาและความเฉลียวฉลาดในการประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆออกมาอยู่เสมอ เห็นแบบนี้แต่พวกเขาเองก็รักการเล่นสนุกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ งานเทศกาลต่างๆ หรืองานแข่งขันกีฬาก็ตาม
นอกจากนี้สกอตแลนด์ยังภูมิใจในตลาดการส่งออกสินค้าไปทั่วโลกที่เจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในด้านอาหารและเครื่องดื่ม รวมไปถึงของขึ้นชื่ออย่างวิสกี้สกอต และสารเคมีต่างๆ
ชาวสกอตนั้นถือได้ว่าเป็นกำลังสำคัญในการทำงาน ด้วยความที่มีการศึกษาระดับสูงที่มีประสิทธิภาพ เปี่ยมด้วยทักษะที่จำเป็นต่องาน และมีแรงบันดาลใจที่เป็นสิ่งช่วยกระตุ้นในการทำงาน นอกจากพวกเขานี้ยังภูมิใจในปัญญาและความเฉลียวฉลาดในการประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆออกมาอยู่เสมอ เห็นแบบนี้แต่พวกเขาเองก็รักการเล่นสนุกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ งานเทศกาลต่างๆ หรืองานแข่งขันกีฬาก็ตาม
อันดับที่ 8. ประเทศแคนาดา 🇨🇦
✒ 1. วีซ่าถาวรแคนาดา PR Canada :
วีซ่าถาวรแคนาดา PR Canada (Permanent Resident of Canada) หรือเรียกว่ากรีนการ์ดแคนาดา มีสถานะเท่าเทียมกับพลเมืองแคนาดาทุกประการ ยกเว้น ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้ง/ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง และมีพันธะต้องพำนักในแคนาดาอย่างน้อย 730 วันในทุกๆ 5 ปี (Residency Obligations)
ผู้ถือวีซ่าถาวรแคนาดา PR Canada พำนักอาศัยอย่างเสรีได้ในพื้นที่ทุกแห่งในแคนาดา / ประกอบธุรกิจ การค้าได้ทุกประเภท / ทำงานรัฐบาลหรือเอกชน / เรียนหนังสือในทุกระดับ และได้รับสวัสดิการสิทธิประโยชน์ต่างๆ เทียบเท่าพลเมืองแคนาดา
ขอสัญชาติแคนาดาและพาสปอร์ต (Canadian Citizenship & Passport) เมื่อพำนักอยู่ในแคนาดาครบ 4 ปีในทุก 6 ปี
สัญชาติแคนาดา (Canadian Citizenship) ที่ได้รับคือ สิทธิประโยชน์อันประเมินค่ามิได้ (ประเมินว่ามีมูลค่ามากกว่า $1 ล้านเหรียญ)
พลเมืองแคนาดาผู้ถือพาสปอร์ตแคนาดา เดินทางเข้า-ออกกว่า 170 ประเทศทั่วโลกโดยไม่ต้องขอวีซ่า (Visa Free) เช่น สหรัฐอเมริกา, สหภาพยุโรป, ประเทศในเครือจักรภพ และอื่นฯ
มีสิทธิและหน้าที่เท่าเทียมกับพลเมืองที่เกิดในแคนาดา (Canadian-born citizens) ทุกประการ
กฏหมายไทยอนุญาติให้พลเมืองไทยถือครองได้หลายสัญชาติ (Dual / Multi Citizenship) มีสถานะเป็นพลเมืองแคนาดาและพลเมืองไทย ถือทั้งพาสปอร์ตแคนาดาและพาสปอร์ตไทย
ข้อสังเกตุ 90 กว่าประเทศทั่วโลกไม่อนุญาติให้พลเมืองของตนถือครองหลายสัญชาติเช่น สิงคโปร์, มาเลเซีย, จีน, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, เยอรมันนี, ออสเตรีย, นอร์เวย์ ฯ
2. กฎหมายอิมมิเกรชั่นฉบับใหม่ยืดหยุ่น
ผู้ถือวีซ่าถาวรแคนาดา PR Canada ไม่จำเป็นต้องพำนักอยู่ในแคนาดาตลอดเวลา
กฏหมายใหม่ (เริ่มบังคับใช้ June 28, 2002) ผ่อนปรนมาก.....กำหนดว่า ทุกๆ 5 ปี ขอให้ผู้ถือวีซ่าถาวรแคนาดา หรือประชากรถาวรแคนาดา PR Canada พำนักในแคนาดาอย่างน้อย 2 ปี (730 Days ) สามารถถือครองสถานะประชากรถาวรได้ตลอดไป
การขอวีซ่าถาวรแคนาดา PR Canada ท่านยังไม่จำเป็นต้องลาออกจากงานหรือละทิ้งธุรกิจ ชีวิตประจำวันในเมืองไทย โดยทันทีแต่อย่างใด เมื่อได้รับวีซ่าถาวรและเป็นประชากรถาวรแคนาดา ท่านเดินทางไป-กลับประเทศไทยได้ มีเวลาวางแผน/เตรียมตัวอีกยาวนานหลายปี แล้วจึงค่อยโยกย้ายถิ่นฐานถาวรไปอยู่ในแคนาดา
เมื่อได้รับสถานะพลเมืองแคนาดาแล้ว สัญชาติแคนาดาคงอยู่ติดตัวตลอดไปและตกทอดไปถึงลูกหลาน
3. UN จัดอันดับให้แคนาดาเป็นประเทศน่าอยู่ที่สุดในโลกติดต่อกันถึง7 ปี (1993-2000):
แคนาดามีชื่อเสียงและได้รับการยกย่องไปทั่วโลกว่า เป็นประเทศที่มีมาตรฐานการครองชีพสูง ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีมาก โดยUN พิจารณาดัชนีชี้วัดที่สำคัญได้แก่ รายได้เฉลี่ยของประชาชนสูง, ประชาชนมีอายุยืนยาว (อาชญากรรมต่ำ, สิ่งแวดล้อมที่ดี), ประชาชนมีการศึกษาที่ดี (คุณภาพ, โอกาสเข้าถึงการศึกษา)
ไม่มีการเหยียดผิวและพลเมืองชั้นสองในแคนาดา (No discrimination)
อดีตผู้แทนพระองค์ (Governor General) ซึ่งเป็นตัวแทนของ พระราชินีElizabeth ที่สองแห่งอังกฤษ (ประมุขของแคนาดา) เป็นสตรีเชื้อสายจีนและจาไมกา
แคนาดายึดถือ Canadian Charter of Rights and Freedoms (CCRF) ที่ชาวแคนาดาทุกคนมีสิทธิและหน้าที่เท่าเทียมกัน
เมือง Vancouver, Toronto, Calgary ของแคนาดา เป็นเมืองน่าอยู่ที่สุดอันดับต้นๆของโลก
คนไทยอพยพไปแคนาดาน้อยมาก ในแคนาดามีคนไทยอาศัยอยู่เพียงประมาณ 8,000 กว่าคนเท่านั้น (เมื่อเทียบกับชาวเอเชียชาติอื่นๆเช่น ฮ่องกง, จีนแผ่นดินใหญ่, ไต้หวัน, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, เวียตนาม, เขมร, ลาว, ฟิลิปปินส์ ซึ่งพำนักอยู่ในแคนาดานับล้านคน)
4. เขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) - โอกาสในงานอาชีพ, ช่องทางธุรกิจการค้าและอุตสาหกรรม:
ผู้ถือวีซ่าถาวรแคนาดา PR Canada รวมถึงพลเมืองแคนาดาจำนวน 33 ล้านคน ได้รับสิทธิประโยชน์ในการเข้าถึงตลาดการค้าที่ถือว่าร่ำรวยที่สุดในโลก (Richest markets) ภายใต้ข้อตกลง NAFTA (North American Free Trade Agreement) ประกอบด้วย: สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และเม็กซิโก ที่มีค่า GNP รวมถึง 8.5 ล้านล้านเหรียญอเมริกัน (ประชากรรวม 280 ล้านคน)
รวมถึงประเทศชิลี CCFTA (Canada-Chile Free Trade Agreement) และประเทศอื่นๆ ฯลฯ
สำหรับนักธุรกิจ ลู่ทางที่น่าสนใจในด้านต่างๆเช่น ทรัพยากรธรรมชาติ (Natural resources), การผลิต (Manufacturing), ก่อสร้าง (Construction), ธุรกิจนำเข้า-ส่งออก (Import-export), การค้า (Commerce), เทคโนโลยี (Hi-tech), ธุรกิจบริการ (Service industries) เช่น ร้านอาหารไทย, นวดแผนไทย-สปา, การทำฟาร์ม (Farming) เป็นต้น
ธุรกิจหลักของชาวไทยในแคนาดาคือ ร้านอาหารไทย (มากกว่า 280 ร้านทั่วประเทศแคนาดา) คนไทยจำนวนมากที่อพยพเข้ามาที่นี่และประสพความสำเร็จในการทำธุรกิจร้านอาหารในเมืองต่างๆทั่วประเทศแคนาดา
ชาวอินเดีย, จีน (แผ่นดินใหญ่-ฮ่องกง), เกาหลี, ญี่ปุ่น หรืออินโดจีน นิยมลงทุนในหลายด้านเช่น ธุรกิจอาหาร, ท่องเที่ยว, บริการด้านต่างๆ, ธุรกิจบ้านพัก(Bed & Breakfast), บ้านเช่า, ร้านสะดวกซื้อ (Convenient stores), บ้านพักดูแลผู้สูงอายุ (Personal-care home for seniors), ร้านอาหาร, ปั๊มน้ำมัน และธุรกิจแฟรนไชส์ต่างๆ
5. คุณภาพชีวิตที่ดีเยี่ยม :
ชาวแคนาดามีคุณภาพชีวิตที่ดีเยี่ยมเป็นอันดับต้นๆของโลก ประชาชนมีอายุยืนยาว มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ไร้มลภาวะ ภูมิประเทศยิ่งใหญ่งดงาม(ยิ่งใหญ่และสวยงามกว่าอเมริกา) บ้านเมืองสะอาดสะอ้านเป็นระเบียบ มีสังคมที่สร้างสรรค์และสงบสุข ปลอดสิ่งมอมเมาและอบายมุข มีความปลอดภัยสูงมาก
ชาวแคนาดาต้อนรับผู้อพยพมาใหม่ (New Immigrants) รักการเสียสละ ชอบช่วยเหลือสังคมส่วนรวม มีความสุภาพน่ารักทั้งหญิงชาย มีจิตใจประชาธิปไตย รักความเป็นธรรมและเมตตาสงสารเพื่อนมนุษย์ผู้ตกทุกข์ได้ยาก (แคนาดารับผู้ลี้ภัยจำนวนมากในแต่ละปี)
6. ตลาดแรงงานมีอัตราการเติบโตสูง :
ข้อมูลล่าสุดต้นปี 2007 - ประชากรกลุ่ม Baby boomers (เกิดช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ระหว่างปี 1946-1964) มีเป็นจำนวนถึง 45% ของแรงงานทั้งหมดในแคนาดา (78% ของ Baby boomers ปัจจุบันมีอายุอยู่ในวัยเกษียณคือ 42-69 ปี) ในทุกปีเกษียณอายุออกไปเป็นจำนวนมาก หลายมณฑลต้องแก้ไขกฏหมายให้ยืดเวลาเกษียณอายุออกไป
สำนักงานสถิติแคนาดา (Statistics Canada) วิเคราะห์ว่าในปี 2020 แคนาดาจะขาดแคลนแรงงานฝีมือ (Skilled-worker) หลายแสนตำแหน่ง
ในทุกปีมีงานใหม่หลายแสนตำแหน่งเพื่อรองรับแรงงานทุกระดับ รายได้เฉลี่ยต่อปีของชาวแคนาดาเท่ากับ CAD$ 40,000 หรือประมาณ 1,240,000 บาท(CAD$1=31 บาท)
ผู้ขอวีซ่าถาวรแคนาดา PR Canada และโยกย้ายถิ่นฐานไปแคนาดา ต้องมีความอดทนในระยะปีแรกๆ เมื่อมีความพยายามจะหางานที่ดีได้และตั้งตัวเป็นผลสำเร็จในที่สุด
7. ภาษีเงินได้ส่วนบุคคลและภาษีการค้าลดลงทุกปี-อัตราเงินเฟ้อต่ำ:
รัฐบาลแคนาดากำหนดให้การจัดเก็บภาษีเงินได้ส่วนบุคคลมีอัตราลดลงทุกปี (Five-year tax reduction plan) ซึ่งทำให้มีอัตราต่ำกว่าใน USA, ส่วนอัตราเงินเฟ้อต่ำมากเพียงแค่ 2.3% ในขณะที่อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจขยายตัวไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงเปรียบเสมือนได้ว่า ชาวแคนาดามีเงินเหลือเก็บเข้ากระเป๋ามากขึ้นทุกปี
แคนาดามีค่าครองชีพ (Cost of living) ต่ำที่สุด ในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกหรือ G-8
ภาษีการค้า (Corporate tax) มีอัตราต่ำสุดเป็นอันดับสอง เมื่อเปรียบเทียบในบรรดากลุ่ม G-8
ค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจในแคนาดา เท่ากับเพียงครึ่งหนึ่ง (57%) ของค่าใช้จ่ายที่ใช้ในสหรัฐอเมริกา
8. แคนาดาเป็นประเทศมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์:
แคนาดาเป็นหนึ่งในประเทศที่มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดในโลก เศรษฐกิจของแคนาดาเติบโตและก้าวหน้าเป็นอย่างมาก เป็นสมาชิกกลุ่ม G-8 ที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดประเทศหนึ่ง
มีพื้นที่กว้างใหญ่เป็นอันดับสองของโลก มีภูมิประเทศหลากหลายสวยงามไล่ตั้งแต่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิคในด้านตะวันตก ไปจรดมหาสมุทรแอตแลนติคในฝั่งตะวันออก มีทรัพยากรธรรมชาติมหาศาลที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ (แคนาดามีปริมาณน้ำมันดิบสำรองเป็นอันดับสองของโลก รองจากซาอุดิอาระเบีย) แต่มีประชากรน้อยนิดเพียง 33 ล้านคน เท่านั้น จึงมีศักยภาพสูงมากในทุกด้าน และยังมีโอกาสอีกมากมายให้กับ PR Canada ผู้อพยพมาใหม่ทุกๆคน
9. มาตรฐานการศึกษาระดับโลก:
ในบรรดากลุ่มประเทศชั้นนำทางเศรษฐกิจของโลก (OECD) แคนาดาใช้จ่ายงบประมาณลงทุนในเรื่องของการศึกษามากที่สุด ทุกปี รัฐบาลแคนาดาจัดสรรงบประมาณจำนวนมหาศาลให้กับการศึกษา มากกว่าประเทศอุตสาหกรรมอื่นๆ
การศึกษาในแคนาดา มีคุณภาพและมีชื่อเสียงจัดอยู่ในอันดับต้นๆของโลก
การศึกษาภาคบังคับ-ประชาชนทุกคนเรียนฟรี ตั้งแต่ชั้นประถม-จนจบมัธยมปลาย (ไฮสกูล)
แคนาดามีชื่อเสียงในงานค้นคว้าวิจัยด้านต่างๆเช่น เทคโนโลยีการแพทย์, ยารักษาโรค, การสื่อสารโทรคมนาคม, คอมพิวเตอร์, วิศวกรรมอวกาศ-การบิน, อุตสาหกรรมรถยนต์, น้ำมัน, ธุรกิจการเงิน-การบริการ ฯลฯ
นักวิทยาศาสตร์ชาวแคนาดาได้รับรางวัลโนเบลถึง 8 คน
ชาวแคนาดามากกว่า 47% จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย/วิทยาลัย (มหาวิทยาลัยทุกแห่งเป็นของรัฐบาล)
ผู้ถือวีซ่าถาวรแคนาดา PR Canada เมื่อเรียนต่อแคนาดาในระดับปริญญาตรี (Undergraduate) หรือปริญญาโท-เอก (Post-graduate) ประหยัดค่าเทอมได้มากกว่าปีละ 600,000-700,000 บาท รวมทั้งขอรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล/ทุนการศึกษา/เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ฯ
10. สวัสดิการรักษาพยาบาลมาตรฐานโลกฟรี-และสวัสดิการสังคมมากมาย:
แคนาดาภูมิใจกับมาตรฐานการแพทย์ที่มีคุณภาพเป็นอันดับต้นๆของโลก ผู้ถือวีซ่าถาวรแคนาดา PR Canada และพลเมืองทุกคน อยู่ภายใต้ระบบประกันสุขภาพ-รักษาพยาบาลฟรี ภายใต้เทคโนโลยีทางการแพทย์ระดับโลก
วงการสาธารณสุขในประเทศไทยให้การยอมรับว่า มาตรฐานการแพทย์ของแคนาดาถูกจัดอันดับอยู่ในชั้นแนวหน้าของโลก
ผู้ถือวีซ่าถาวรแคนาดา PR Canada และพลเมืองแคนาดา ได้รับสวัสดิการสังคมในหลายรูปแบบเช่น:
เงินช่วยเหลือบุตร (National Child Benefits), เงินบำนาญคนชรา (Old Age Security Pension), เงินเกษียณอายุ (Canada Pension Plan), เงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย (Guaranteed Income Supplement), เงินประกันการว่างงาน (Unemployment Insurance)
อันดับที่ 9. ประเทศเวียดนาม 🇻🇳
✒ เวียดนามเป็นประเทศที่มีลักษณะเป็นแนวยาว และ มีภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงกั้นระหว่างที่ราบลุ่มแม่น้ำที่อุดมสมบูรณ์ทางตอนเหนือและใต้ แต่มีภูเขาที่มีป่าหนาทึบแค่ 20% โดยมีพันธุ์ไม้ 13,000 ชนิด และพันธุ์สัตว์กว่า 15,000 สายพันธุ์
ลักษณะภูมิประเทศ แก้ไข
มีที่ราบลุ่มแม่น้ำขนาดใหญ่ 2 ตอน คือ ตอนเหนือเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำแดง และตอนใต้เป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง
มีที่ราบสูงตอนเหนือของประเทศ และยังเป็นภูมิภาคที่มีเขา ซึ่งเป็นภูเขาที่สูง 3,143 เมตร (10,312 ฟุต)
ลักษณะภูมิอากาศ แก้ไข
เป็นแบบมรสุมเขตร้อน ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกเปิดโล่งรับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดผ่านทะเลจีนใต้ ทำให้มีโอกาสรับลมมรสุมและพายุหมุนเขตร้อน จึงมีฝนตกชุกในฤดูหนาว สามารถปลูกข้าวได้ปีละ 2 ครั้ง (ฝนตกตลอดปี ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ)
เป็นประเทศที่มีความชื้นประมาณร้อยละ 84 ตลอดปี มีอุณหภูมิเฉลี่ยตั้งแต่ 5 องศาเซลเซียส
วัฒนธรรมของเวียดนามส่วนใหญ่ล้วนมีวัฒนธรรมที่มีรากฐานมาจากจีน และศาสนาพุทธและลัทธิเต๋า
เวียดนามมีเทศกาลตามปฏิทินจันทรคติมากมาย เทศกาลที่สำคัญที่สุดคือการเฉลิมฉลองปีใหม่ตรุษญวน งานแต่งงานเวียดนามแบบดั้งเดิมยังคงเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายและมักจะมีการเฉลิมฉลองโดยชาวเวียดนามในประเทศตะวันตก
เทศกาลเต๊ต
เป็นเทศกาลทางศาสนาที่สำคัญที่สุด มีชื่อเต็มว่า "เต๊ตเงวียนด๊าน" หมายความว่า เทศกาลแห่งรุ่งอรุณแรกของปี มีขึ้นระหว่างปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เป็นการเฉลิมฉลองความเชื่อในเทพเจ้า ลัทธิเต๋า ขงจื่อ และศาสนาพุทธ และเป็นการเคารพบรรพบุรุษ
เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง
ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี ชาวบ้านประกวดทำขนมเปี๊ยะโก๋ญวน (บันตรังทู) พร้อมทั้งจัดขบวนแห่เชิดมังกร เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อดวงจันทร์
การท่องเที่ยวเป็นองค์ประกอบสำคัญของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศคิดเป็น 7.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ เวียดนามต้อนรับผู้มาเยือนกว่า 12.9 ล้านคนในปี 2560 เพิ่มขึ้น 29.1% จากปีก่อนทำให้เวียดนามเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่เติบโตเร็วที่สุดในปีที่ผ่านมา ผู้มาเยือนเวียดนามส่วนใหญ่ในปี 2560 มาจากเอเชียมีจำนวน 9.7 ล้านคน จีน (4 ล้านคน) เกาหลีใต้ (2.6 ล้านคน) และญี่ปุ่น (798,119) คิดเป็นครึ่งหนึ่งของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดในปี 2560 [285] เวียดนามยังดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากยุโรปด้วยจำนวน 1.9 ล้านคนในปี 2017 รัสเซีย (574,164) ), สหราชอาณาจักร (283,537), ตามมาด้วยฝรั่งเศส (255,396) และเยอรมนี (199,872) เป็นแหล่งที่มาของนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่ใหญ่ที่สุด จำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา (614,117) และออสเตรเลีย (370,438)
อันดับที่ 10. ประเทศเกาหลี (ใต้) 🇰🇷
✒ เป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ ที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด เป็นประเทศพัฒนาแล้ว
การเพาะปลูก : พืชสำคัญได้แก่ ข้าวเจ้า ข้าวบาร์เลย์ แอปเปิล มันฝรั่ง ถั่วเหลือง ข้าวสาลี
การเลี้ยงสัตว์ : สัตว์เลี้ยงสำคัญได้แก่ สุกร โค สัตว์ปีก และตัวไหม
การประมง : ผลผลิตทางการประมงของเกาหลีใต้มีเหลือใช้ในประเทศจนสามารถส่งเป็นสนค้าส่งออกที่สำคัญอย่างหนึ่ง เกาหลีใต้สามารถจับปลาได้เป็นอันดับ 10 ของโลก (ไทยเป็นอันดับ 9 สถิติปี พ.ศ. 2535)
การทำเหมืองแร่ : เกาหลีใต้ขาดแคลนถ่านหินและน้ำมันปิโตเลียม แต่มีแร่ธาตุอื่นๆอีกหลายชนิด ได้แก่ แกรไฟต์ ดินเกาลิน และทังสเตน
อุตสาหกรรม : อุตสาหกรรมในเกาหลีใต้ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมเบา ผลผลิตทางอุตสาหกรรมที่สำคัญได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ รถยนต์ ปิโตรเคมี และเรือเดินสมุทร
ศิลปะเกาหลีมีลักษณะเด่นหลายประการที่ทำให้เกิดแบบของตัวเอง ศิลปะเกาหลียกย่องธรรมชาติ และการใช้สีอ่อนและเรียบก็ปรากฏอยู่เสมอในภาพเขียนและเครื่องปั้นแบบเกาหลี
ศิลปะเกาหลีมีลักษณะเด่นหลายประการที่ทำให้เกิดแบบของตัวเอง ศิลปะเกาหลียกย่องธรรมชาติ และการใช้สีอ่อนและเรียบก็ปรากฏอยู่เสมอในภาพเขียนและเครื่องปั้นแบบเกาหลี วัฒนธรรมงานหัตกรรมพื้นบ้านคือศิลปะที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี งานไม้และเครื่องเขินของเกาหลีเป็นที่รู้จักกันดี โดยเน้นการออกแบบเพื่อประโยชน์ใช้สอยและความเรียบง่าย สิ่งสะดุดตาในงานไม้เกาหลีคือศิลปะการประดับมุก งานหัตกรรมโลหะทำด้วยทอง ทำด้วยสำริด ทางด้านพระพุทธศาสนามีการสร้างพระพุทธรูปสำริด ระฆังวัดที่หล่อด้วยสำริด เอกลักษณ์ของระฆังเกาหลีคือรูปร่างการออกแบบและเสียง ศิลปะเครื่องปั้นดินเผา เกาหลีเป็นประเทศที่เป็นที่ยอมรับในการพัฒนาศิลปะด้านนี้และเครื่องปั้นดินเผาที่มีชื่อเสียงคือ ศิลาดล เป็นเครื่องเคลือบที่มีความสดใส ฝีมือประณีต นิยมเคลือบด้วยสีขาวซึ่งพัฒนาให้สวยงามในยุคโกเรียว เพื่อการอนุรักษ์สิ่งดีงามตั้งแต่อดีต ทางการเกาหลีได้จัดตั้งโครงการสมบัติประจำชาติเกาหลีใต้ขึ้น
ศิลปะของนักปราชญ์ เดิมรูปแบบตัวอักษรเกาหลีและญี่ปุ่นเป็นอักษรจีน ซึ่งเป็นตัวเขียนที่ยังใช้อยู่ในเอเชียตะวันออกร่วมพันปี แม้ว่าหลังจากที่เกาหลี ประดิษฐ์อักษรฮันกึล ในปี พ.ศ. 1989 (ค.ศ. 1446) ตัวอักษรจีนยังคงใช้ในภาษาทางการ จนถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 เพราะว่าตัวอักษรจีนมีอยู่นับหมื่นตัว แต่ละตัวมีความแตกต่างกัน มีวิธีเขียนหลายแบบ หลายความหมาย การเรียนอ่านและการเขียนตัวอักษรจีนไม่ใชเรื่องง่าย ศิลปะการเขียนอักษรจีนได้เข้ามาในประเทศเกาหลีเมื่อ 1,500 ปีมาแล้ว
การเขียนตัวอักษรด้วยพู่กันเกาหลีเรียกว่า "บุดกึลซี" ต้องอาศัยปัจจัย 4 ของนักปราชญ์ ได้แก่ หมึก แท่งหินฝนหมึก พู่กันและกระดาษ ศิลปินเขียนพู่กันส่วนใหญ่มักเป็นทั้งนักปราชญ์และจิตรกร ศิลปินเหล่านี้อาจใช้พู่กันเล่มเดียวกันเขียนกลอนบรรยายภาพ ภาพวาดเกาหลี เป็นศิลปะที่มีธรรมเนียมนิยมของตนเองอย่างสมบูรณ์ จิตรกรรม ภาพจิตกรรมของเกาหลีมีมานานแล้ว สถาบันภาพวาดก่อตั้งขึ้นในยุคโกกุริวสถาบันแห่งนี้เน้นภาพวาดที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา รูปแบบจิตรกรรมที่หลากหลายได้พัฒนาสืบต่อกันมาจนถึงสมัยโซชอน พร้อมนำรูปแบบศิลปะจีนแบบใหม่รวมทั้งเทคนิคการวาดภาพแบบตะวันตก มีการใช้สีสันสดใสในภาพที่วาดเกี่ยวกับศาสนานี้
เที่ยวเมืองนอก : 5 อันดับประเทศที่แม้จะเกิดภัยพิบัติธรรมชาติแต่ก็ยังคงน่าเที่ยวในปี 2019
องค์กรการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ หรือ UNWTO (United Nations World Tourism Organization)ได้จัดอันดับประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกประจำปี พ.ศ.2560 ไว้ 100 อันดับ โดย 5 อันดับแรกนั้นคือ…
อันดับประเทศจำนวน (พร้อมเหตุผล)
1ฝรั่งเศส > ฝรั่งเศสเกิดน้ำท่วมบ่อยครั้งในแทบทุกพื้นที่ เพราะตั้งอยู่ติดกับชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกที่มีกระแสน้ำอุ่นไหลผ่าน ทำให้มีความชื้นในอากาศสูง ฝนตกบ่อย และมีแม่น้ำสายใหญ่หลายสายไหลผ่านเมืองสำคัญ
1ฝรั่งเศส > ฝรั่งเศสเกิดน้ำท่วมบ่อยครั้งในแทบทุกพื้นที่ เพราะตั้งอยู่ติดกับชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกที่มีกระแสน้ำอุ่นไหลผ่าน ทำให้มีความชื้นในอากาศสูง ฝนตกบ่อย และมีแม่น้ำสายใหญ่หลายสายไหลผ่านเมืองสำคัญ
2สหรัฐอเมริกา > มีพื้นที่ที่กว้างใหญ่มาก จึงมีแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมหลายแห่ง แต่เชื่อหรือไม่!! เพราะพื้นที่ที่กว้างใหญ่นี้จึงทำให้มีภัยพิบัติธรรมชาติที่หลากหลายและครบครัน ตั้งแต่น้ำท่วม หิมะถล่ม คลื่นความร้อน ไฟป่า ทอร์นาโด เฮอริเคน แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด
3สเปน > เมืองกระทิงดุ ที่อยู่ติดกับทะเลสวยๆ อย่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่เชื่อหรือไม่!! ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดคือ ไฟป่า เพราะต้นไม้ส่วนใหญ่ในป่านั้น เป็น “ยูคาลิปตัส” เชื้อเพลิงชั้นดีเมื่ออยู่ในสภาวะความชื้นต่ำแต่อุณหภูมิสูง ตั้งแต่ พ.ศ.2545 จนถึงปัจจุบันเกิดไฟป่าในสเปนเกือบทุกปี และล่าสุดคือในปี พ.ศ.2561 นี้ก็กำลังเกิดขึ้นใกล้กับชายหาดโบโลนน่าที่ติดอันดับชายหาดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของสเปนเแถวๆ ช่องแคบยิบบรอลต้า ที่อยู่ระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับมหาสมุทรแอตแลนติกเลยครับ
4จีน > ต้นปีที่ผ่านมา ส่วนต่างๆ ของประเทศจีนประสบภัยธรรมชาติมากมายทั้งพายุและแผ่นดินไหว โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทย อย่างเขตเศรษฐกิจพิเศษไต้หวัน ที่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.4 ในทะเล แรงสั่นสะเทือนมาถึงเมืองฮวาเหลียนทางตะวันออกของเกาะทำให้อาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างหนัก พอเดือนกรกฎาคมไต้ฝุ่น “มาเรีย” ก็พัดเฉียดเกาะไต้หวันแล้วมุ่งหน้าไปขึ้นฝั่งมณฑลเจ้อเจียงและมณฑลฝูเจี้ยน ทางการจีนต้องประกาศเตือนภัยระดับสีแดง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดครั้งแรกของปีนี้
5อิตาลี > อิตาลีมีภัยธรรมชาติมากมายจนเมื่อเทียบกับขนาดของประเทศแล้ว ทำให้ดูเหมือนเกิดภัยธรรมชาติขึ้นเยอะมาก แถมภัยบางอย่างมีอันตรายในระดับสูงสุดด้วย
เมื่อ 9 ปีก่อนภูเขาไฟ เอธนา ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ทรงพลังที่สุดลูกหนึ่งของโลก ได้ปะทุขึ้นและปล่อยแก๊สพิษออกมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน การปะทุนี้นับเป็นสัญญาณว่าพร้อมที่จะระเบิดเมื่อไรก็ได้ นอกจากนี้ในช่วงหลังมานี้ยังเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้งด้วย และนอกจากภูเขาไฟเอธนาแล้วยังมีภูเขาไฟ เวสุเวียส ที่ยังมีพลังอยู่ด้วยอีกลูกหนึ่ง
นอกจากภูเขาไฟแล้ว อิตาลียังเคยเจอน้ำท่วมหนัก และความแห้งแล้งครั้งใหญ่ถึงขั้นที่แม่น้ำที่ไหลผ่านกรุงโรมแห้งขอด แต่ทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้ทำให้นักท่องเที่ยวหวั่นไหว เพราะศิลปะ-วัฒนธรรมที่สวยงามเย้ายวนนักท่องเที่ยวนั้นมีมากกว่า อิตาลีจึงยังเป็นดินแดนในฝันของใครหลายๆคน ที่อยากไปเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิต
6ญี่ปุ่น > เกิดแผ่นดินไหว บ่อยครั้ง มาก ใน 1 เดือน จะเกิดแผนดินไหว ประมาณ 4 ครั้ง ถ้าคิดเป็นปี คงไม่ต้องนับเลย ซ้อมแซมบ้านไม่ทันไร ก็พังอีกซะละ
7อังกฤษ > เป็นพื่นที่อากาศหนาวมาก แต่ !! เป็นประเทศที่ชื้นมากๆ นอกจากจะหนาวแล้ว ฝนยังมาตกซ้ำอีก ทำให้คุณเปียกแฉะ ยาวไปตลอดปี
ใน1ปี คุณจะอุ่นสักประมาณ 14วัน ได้มั้ง.
**ข้อมูลที่ยกมารายงานนี้ อาจมีคลาดเคลื่อนได้**
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น